Adobe Photoshop คือโปรแกรมคู่ใจสำหรับช่างภาพ นักออกแบบ และศิลปินทั่วโลก ด้วยความสามารถที่ทรงพลัง ยืดหยุ่น และอัดแน่นไปด้วยเครื่องมือที่มืออาชีพต่างไว้วางใจใช้กันทุกวัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ และการจะหาทางดาวน์โหลด Adobe Photoshop ฟรีสำหรับ Windows 10 ก็อาจจะดูสับสนไปบ้าง แต่ไม่ต้องกังวลไป คู่มือนี้จะปูทางให้คุณเอง ผมจะแสดงวิธีรับ Photoshop เวอร์ชันทดลองใช้ฟรีอย่างเป็นทางการ แนะนำทางเลือกดีๆ เมื่อหมดช่วงทดลองใช้ และยังจะพาไปรู้จักกับเครื่องมือคู่ใจสุดเวิร์กที่จะช่วยให้คุณทำงานต่อได้ง่ายขึ้นหลังจากแก้ไขภาพเสร็จแล้ว
วิธีดาวน์โหลด Adobe Photoshop ฟรีสำหรับ Windows 10 (เวอร์ชันทดลองใช้อย่างเป็นทางการ)
หากคุณต้องการใช้ Adobe Photoshop แบบถูกลิขสิทธิ์และไม่มีข้อจำกัดใดๆ อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสั้นๆ การทดลองใช้ฟรี 7 วันอย่างเป็นทางการคือคำตอบที่ดีที่สุด เพราะมาพร้อมฟีเจอร์ครบครันและใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ Windows 10 เรามาดูขั้นตอนการดาวน์โหลดและติดตั้งไปพร้อมๆ กันเลย ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรและเวลาไม่กี่นาที นี่คือวิธีรับ Adobe Photoshop ฟรีบน Windows 10:
ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Adobe Photoshop จากนั้นคลิกปุ่ม “Free Trial” เพื่อเลือกระหว่างแผนสำหรับ Photoshop เพียงอย่างเดียว หรือชุด Creative Cloud แบบเต็มรูปแบบ
ขั้นตอนที่ 2: ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Adobe ID ของคุณ หรือสร้างบัญชีฟรีโดยกรอกข้อมูลพื้นฐาน
ขั้นตอนที่ 3: เลือกแผนที่ต้องการ:
แผน Photography สำหรับการแก้ไขรูปภาพโดยเฉพาะ
“All Apps” เพื่อการเข้าถึงทุกแอปพลิเคชันสำหรับงานสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ
แผน Single App สำหรับเลือกใช้แอป Adobe ที่คุณต้องการเพียงแอปเดียว
ขั้นตอนที่ 4: ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปเดสก์ท็อป Adobe Creative Cloud เพื่อจัดการการทดลองใช้ของคุณ
ขั้นตอนที่ 5: เปิด Creative Cloud แล้วทำการติดตั้ง Photoshop
Photoshop เวอร์ชันทดลองใช้ 7 วันบน Windows 10 นี้มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน ไม่มีลายน้ำ หรือฟีเจอร์ที่ถูกล็อกไว้ นับเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมที่จะได้สำรวจขุมพลังของเครื่องมือนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังทำโปรเจกต์และอยากรู้ว่าโปรแกรมนี้จะเข้ากับกระบวนการสร้างสรรค์ของคุณได้ดีแค่ไหน
ทางเลือกฟรีแทน Photoshop บน Windows 10
เมื่อสิ้นสุดช่วงทดลองใช้ คุณอาจอยากจะแก้ไขงานต่อโดยไม่ต้องเสียค่าสมัครสมาชิก ซึ่งทำได้แน่นอน! มีเครื่องมือฟรีอยู่หลายตัวที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับ Photoshop อย่างน่าทึ่งโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท และนี่คือ 3 ตัวเลือกชั้นนำที่ควรค่าแก่การลอง:
Photopea
โปรแกรมแก้ไขรูปภาพบนเบราว์เซอร์ที่จำลองหน้าตาและความรู้สึกในการใช้งานของ Photoshop มาได้อย่างใกล้เคียง Photopea รองรับไฟล์ PSD, เลเยอร์, smart object และเครื่องมือแก้ไขทั่วไปส่วนใหญ่ที่คุณคาดหวังจากแอปบนเดสก์ท็อป และเนื่องจากมันทำงานทั้งหมดบนเบราว์เซอร์ของคุณ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานออกแบบด่วนๆ ในเวลาที่คุณไม่อยากติดตั้งอะไรเพิ่มเติมหรือกำลังใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ร่วมกับผู้อื่น
GIMP
GIMP คือโปรแกรมแก้ไขรูปภาพแบบโอเพนซอร์สที่ขึ้นชื่อเรื่องชุดเครื่องมือที่ครอบคลุมและตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย แม้ว่าหน้าตาโปรแกรมอาจจะดูเก่าไปบ้างในตอนแรก แต่มันก็มาพร้อมฟีเจอร์ทรงพลังอย่าง layer mask, ฟิลเตอร์ขั้นสูง และการรองรับสคริปต์ ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักพัฒนา ผู้ทำงานอดิเรก และนักสร้างสรรค์ที่ต้องการควบคุมทุกอย่างได้เต็มที่โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิก
Pixlr
โปรแกรมแก้ไขบนคลาวด์ที่รวดเร็ว รองรับเลเยอร์, blending mode และฟีเจอร์หลักๆ สำหรับงานออกแบบ Pixlr เป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นเป็นพิเศษ ด้วยหน้าตาที่สะอาดตาและเครื่องมือที่ใช้งานง่ายสำหรับการครอบตัด รีทัช และงานกราฟิกดีไซน์ นอกจากนี้ยังทำงานได้ดีบนระบบ Windows ที่มีสเปกไม่สูง ทำให้เป็นอีกทางเลือกที่ไว้ใจได้เมื่อต้องทำงานนอกสถานที่หรือมีทรัพยากรจำกัด
ตอนที่ Photoshop เวอร์ชันทดลองของผมหมดอายุ Photopea ก็เข้ามาช่วยให้ผมทำกราฟิกสำหรับโซเชียลมีเดียชิ้นด่วนเสร็จได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องติดตั้ง ไม่ต้องสร้างบัญชี แค่เปิดเบราว์เซอร์แล้วลุยได้เลย ทางเลือกเหล่านี้คือแผนสำรองชั้นดีเมื่อคุณต้องการทำงานให้เสร็จโดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิก Adobe แบบเต็ม
ใช้ WPS Office ควบคู่ไปกับ Photoshop
หลังจากแก้ไขรูปภาพใน Photoshop หรือโปรแกรมทางเลือกฟรีแล้ว มักจะมีขั้นตอนที่ต้องนำภาพเหล่านั้นไปใส่ในเอกสาร สไลด์นำเสนอ หรือใบเสนอราคาอยู่เสมอ และนั่นคือจุดที่ผมลงเอยด้วยการใช้ WPS Office มันไม่ใช่สิ่งที่ผมวางแผนไว้ล่วงหน้า แต่มันกลับเป็นเครื่องมือที่ใช่ในเวลาที่ผมต้องการโปรแกรมที่ไม่ทำให้ทุกอย่างช้าลง มันจัดการไฟล์ Word, สไลด์, สเปรดชีต และ PDF ได้อย่างไร้ปัญหา แถมยังทำงานได้อย่างราบรื่นแม้บนแล็ปท็อป Windows 10 รุ่นเก่า
ทำไม WPS Office ถึงเป็นคู่หูที่ลงตัวหลังติดตั้ง Photoshop
เมื่องานสร้างสรรค์ใน Photoshop เสร็จสิ้นแล้ว ก็ยังคงมีภารกิจในการนำเสนอ แบ่งปัน หรือจัดระเบียบทุกอย่างให้เข้าที่ ซึ่งนี่คือจุดที่ชุดโปรแกรมออฟฟิศที่เชื่อถือได้และไม่กินทรัพยากรเครื่องเข้ามามีบทบาทสำคัญ WPS Office เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้โดยไม่สร้างภาระที่ไม่จำเป็นให้กับระบบของคุณ นี่คือประโยชน์ของแต่ละเครื่องมือหลังจากที่คุณแก้ไขภาพเสร็จ:
Writer จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์รายงาน ใบเสนอราคา หรือเอกสารที่มีรูปภาพจำนวนมากได้อย่างมืออาชีพ พร้อมการจัดรูปแบบที่สวยงาม และการควบคุมเลย์เอาต์กับสไตล์ได้อย่างเต็มที่ เหมาะอย่างยิ่งเมื่อต้องนำภาพจาก Photoshop มารวมกับเนื้อหาที่เป็นข้อความ
Presentation ทำให้การสร้างสไลด์นำเสนอที่สวยงามโดดเด่นเป็นเรื่องง่าย เพื่อโชว์ผลงานการแก้ไข แบบจำลอง หรือแนวคิดการออกแบบของคุณ คุณสามารถแทรกรูปภาพ เพิ่มเอฟเฟกต์การเปลี่ยนสไลด์ และส่งออกไฟล์ได้หลากหลายรูปแบบ
Spreadsheet ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดระเบียบรายละเอียดโปรเจกต์ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามการแก้ไข จัดการตารางเวลาของเนื้อหา หรือรวบรวมความคิดเห็นจากลูกค้า โปรแกรมรองรับทั้งสูตรคำนวณ แผนภูมิ และเครื่องมือจัดรูปแบบต่างๆ
PDF Editor ให้คุณเปิด ตรวจสอบ และใส่คำอธิบายประกอบในไฟล์ PDF ได้โดยตรง คุณสามารถเซ็นเอกสาร เน้นข้อความการเปลี่ยนแปลง เพิ่มความคิดเห็น หรือส่งออกผลงานขั้นสุดท้ายในรูปแบบ PDF ที่เป็นมืออาชีพและเปิดอ่านได้ในทุกที่
WPS AI นำเสนอเครื่องมือที่มีประโยชน์มากมาย เช่น การแนะนำข้อความอัจฉริยะ การสร้างข้อความอัตโนมัติ (เหมาะสำหรับคำบรรยายภาพหรือบทสรุป) และการดึงเนื้อหาจาก PDF โดยยังคงความเบาและทำงานอยู่เบื้องหลังได้อย่างราบรื่น
หลังจากใช้ Photoshop สร้างภาพวิชวลต่างๆ เสร็จแล้ว การนำภาพเหล่านั้นไปใส่ใน WPS Presentation ก็ช่วยให้ผมรวบรวมสไลด์นำเสนอที่สวยงามพร้อมส่งให้ลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหลายตัวให้วุ่นวาย
คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่ 1: Adobe Photoshop ฟรีสำหรับ Windows 10 จริงหรือไม่?
ไม่ฟรี แต่ Adobe มีเวอร์ชันทดลองใช้ฟรี 7 วันซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ครบทุกอย่าง
คำถามที่ 2: ฉันต้องกรอกข้อมูลการชำระเงินเพื่อทดลองใช้หรือไม่?
ใช่ โดยปกติแล้ว Adobe จะขอข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต แต่คุณสามารถยกเลิกได้ตลอดเวลาก่อนที่ช่วงทดลองใช้จะสิ้นสุดลงเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บเงิน
คำถามที่ 3: ฉันสามารถเปิดใช้งานเวอร์ชันทดลองใช้มากกว่าหนึ่งครั้งได้หรือไม่?
ไม่ได้ หากใช้บัญชี Adobe หรืออุปกรณ์เดิม คุณจะต้องใช้บัญชีใหม่หรือใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น
คำถามที่ 4: ฉันสามารถปรับขนาดรูปภาพใน WPS Office ได้หรือไม่?
ได้ WPS Office มี เครื่องมือปรับขนาดรูปภาพ ในตัวที่ช่วยให้คุณปรับขนาดไฟล์รูปภาพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย คุณสามารถปรับขนาดของภาพ ลดขนาดไฟล์ และปรับภาพให้เหมาะสำหรับใช้ในเอกสาร งานนำเสนอ หรือบนเว็บ ทั้งหมดนี้ทำได้โดยไม่ลดทอนคุณภาพและไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือจากภายนอก
คำถามที่ 5: มีทางเลือกอื่นที่ฟรีโดยสมบูรณ์แทน Photoshop บน Windows 10 หรือไม่?
มีแน่นอน Photopea, GIMP และ Pixlr ล้วนมีฟีเจอร์ที่แข็งแกร่งโดยไม่ต้องสมัครสมาชิก
เครื่องมือที่ใช่ ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
เวอร์ชันทดลองใช้ฟรีของ Adobe Photoshop ให้คุณเข้าถึงทุกฟังก์ชันได้เต็มที่เป็นเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับการสำรวจฟีเจอร์ต่างๆ หรือทำโปรเจกต์สร้างสรรค์ให้เสร็จสมบูรณ์ เมื่อหมดช่วงทดลองใช้แล้ว เครื่องมืออย่าง GIMP และ Photopea ก็เป็นตัวแทนที่ไว้ใจได้และช่วยให้งานของคุณสำเร็จลุล่วง และในขณะที่คุณกำลังจัดการงานแก้ไข รับฟีดแบ็ก และเตรียมไฟล์นำเสนอขั้นสุดท้าย WPS Office จะทำให้กระบวนการที่เหลือราบรื่นยิ่งขึ้น ตั้งแต่การแก้ไขไปจนถึงการส่งออกไฟล์ โปรแกรมจะช่วยให้ทุกอย่างง่ายและตรงจุด หากคุณกำลังมองหาวิธีดาวน์โหลด Adobe Photoshop ฟรีสำหรับ Windows 10 ชุดเครื่องมือที่แนะนำนี้จะมอบทุกสิ่งที่คุณต้องการ ทั้งถูกกฎหมาย มีประสิทธิภาพ และครบจบในที่เดียว