เมื่อเวลาผ่านไป ฟังก์ชันวันและเวลาของ Excel ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเวลา การคำนวณวันที่ และการวิเคราะห์ข้อมูล Excel เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถทำงานได้หลากหลาย เช่น การจัดการโครงการ การจัดตารางเวลา การสร้างแบบจำลองทางการเงิน งานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และอื่นๆ อีกมากมาย
ฟังก์ชันลบวันและเวลาใน Excel เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและความสามารถในการจัดการเวลา ผู้ใช้สามารถคำนวณระยะเวลาระหว่างสองเหตุการณ์ ติดตามความคืบหน้าเมื่อเวลาผ่านไป และทำการคำนวณโดยอัตโนมัติ การใช้ฟังก์ชันลบวันและเวลาช่วยให้เราประหยัดเวลา ลดข้อผิดพลาด และตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลโดยอาศัยข้อมูลที่แม่นยำและเชื่อถือได้
ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับการลบวันและเวลาใน Excel และวิธีการใช้งาน นอกจากนี้ เราจะแนะนำซอฟต์แวร์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการลบวันและเวลาอีกด้วย
ส่วนที่ 1. การลบวันและเวลาใน Excel คืออะไร?
ใน Excel การลบวันและเวลาเป็นการดำเนินการพื้นฐานที่ช่วยให้คุณสามารถคำนวณผลต่างของเวลาระหว่างจุดสองจุดที่กำหนดได้ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในฟังก์ชันมากมายที่มีอยู่ ฟังก์ชันนี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์ต่างๆ ผู้คนสามารถใช้ฟังก์ชันนี้เพื่อคำนวณระยะเวลา ติดตามช่วงเวลา จัดการตารางเวลาโครงการ วิเคราะห์แนวโน้ม และสร้างรายงานที่ให้ข้อมูลเชิงลึกได้ ด้วยการใช้ฟังก์ชันลบวันและเวลาใน Excel ผู้ใช้ Excel จะสามารถจัดการข้อมูลเกี่ยวกับเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับเวลาได้
ส่วนที่ 2. วิธีการลบวันและเวลาใน Excel
เราจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการลบวันและเวลาใน Excel ตามเงื่อนไข/สถานการณ์ต่างๆ
ด้านล่างนี้คือบทช่วยสอนแบบทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการลบเวลาใน Excel ตามเงื่อนไขต่างๆ:
สถานการณ์ที่ 1: การลบค่าวันที่สองค่า
ขั้นตอนที่ 1: เริ่มจากเปิดโปรแกรม WPS Excel แล้วคลิกไปที่แท็บหน้าแรก (Home Tab)

ขั้นตอนที่ 2: เลือกเซลล์ ‘A2+B2’ และเลือก ‘รูปแบบตัวเลขเพิ่มเติม’ (more number formats) จากเมนูแบบเลื่อนลงดังที่กล่าวไว้ในภาพหน้าจอด้านบนและไฮไลต์ไว้สำหรับขั้นตอนที่ 3
ขั้นตอนที่ 3: จัดการเลือกรูปแบบวันที่ตามที่ไฮไลต์เอาไว้ แล้วคลิกปุ่มตกลง (OK) เพื่อยืนยัน

ขั้นตอนที่ 4: จากนั้น ให้ป้อนค่าวันที่สองค่าที่คุณต้องการนำมาลบกันในเซลล์ที่แยกจากกัน ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณมีวันที่เริ่มต้นในเซลล์ A2 และวันที่สิ้นสุดในเซลล์ B2

ขั้นตอนที่ 5: ในเซลล์ว่างที่คุณต้องการให้แสดงผลลัพธ์ ให้ป้อนสูตรต่อไปนี้เพื่อคำนวณจำนวนวัน: =B2 - A2

ขั้นตอนที่ 6: เราจะได้รับจำนวนวันทั้งหมดในเซลล์ C2 เนื่องจากรูปแบบของเซลล์เป็นแบบทั่วไป (General) ซึ่งแสดงผลเป็นตัวเลข
ขั้นตอนที่ 7: ในทำนองเดียวกัน หากเราเปลี่ยนรูปแบบของเซลล์ C2 จากทั่วไป (General) เป็นวันที่ (Date) เราจะได้รับผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

สถานการณ์ที่ 2: การลบวันที่เพื่อคำนวณระยะเวลาเป็นปี
ขั้นตอนที่ 1: หากคุณต้องการคำนวณระยะเวลาเป็นจำนวนปีระหว่างวันที่สองวัน คุณสามารถใช้ฟังก์ชันเพื่อคำนวณได้ง่ายๆ ดังที่แสดงในภาพหน้าจอ

ขั้นตอนที่ 2: คัดลอกสูตร =YEAR(B2)-YEAR(A2) แล้วนำไปวางในเซลล์ D2 เพื่อคำนวณจำนวนปีทั้งหมด (ในที่นี้ ‘YEAR’ คือคำสั่งเพิ่มเติมที่ใช้ร่วมกับตัวดำเนินการลบ)
ขั้นตอนที่ 3: Excel จะแสดงจำนวนปีระหว่างวันที่สองวัน (33 ปี)
สถานการณ์ที่ 3: การลบค่าวันที่สองค่าเพื่อคำนวณเป็นเดือน
ขั้นตอนที่ 1: หากคุณต้องการลบค่าวันที่สองค่า คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน DATEDIF เพื่อหาผลต่างเป็นเดือนได้
สูตร: =DATEDIF($A2,$B2, "M")

ขั้นตอนที่ 2: เพียงแค่นำสูตรไปวางในเซลล์ E2 คุณก็จะได้รับผลรวมของจำนวนเดือนทั้งหมด
WPS Excel จะแสดงผลต่างของเดือนระหว่างวันที่สองวัน
สถานการณ์ที่ 4: การจัดการกับค่าวันที่ติดลบ
ขั้นตอนที่ 1: เมื่อทำการลบค่า หากวันที่สิ้นสุดอยู่ก่อนวันที่เริ่มต้น Excel จะแสดงค่าเป็นลบ

ขั้นตอนที่ 2: เพื่อจัดการกับค่าเวลาที่ติดลบ คุณควรป้อนวันที่เก่ากว่าก่อนแล้วตามด้วยวันที่สิ้นสุดเสมอ ไม่เช่นนั้นคุณจะได้ผลลัพธ์เดิมแต่มีค่าติดลบ
ด้วยวิธีการที่กล่าวมาข้างต้น คุณสามารถลบค่าวันและเวลาใน Excel ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเงื่อนไขต่างๆ และได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำสำหรับการคำนวณที่เกี่ยวข้องกับเวลาต่างๆ
ส่วนที่ 3: ตัวเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด - WPS Office
WPS Office เป็นโปรแกรมฟรีและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแทน Microsoft Office ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่มีงบประมาณจำกัดและเชื่อถือได้สำหรับการคำนวณวันและเวลา ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับบุคคลและธุรกิจ

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันวันและเวลาที่หลากหลาย เช่น DATEDIF(), DATE() และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งช่วยให้เราสามารถคำนวณวันและเวลาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติของ WPS Office
WPS Office นำเสนอชุดคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครซึ่งทำให้โดดเด่นกว่าชุดโปรแกรม Office อื่นๆ:
1. อินเทอร์เฟซสุดล้ำ: WPS Office มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซแบบแท็บที่ช่วยให้คุณเปิดเอกสารหลายฉบับได้พร้อมกันในหน้าต่างเดียว
2. เชื่อมต่อคลาวด์ได้อย่างราบรื่น: โปรแกรมสามารถผสานรวมกับบริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ยอดนิยมมากมาย เช่น Google Drive, Dropbox, OneDrive และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและบันทึกเอกสารของตนได้จากทุกที่บนทุกอุปกรณ์
3. แปลงไฟล์ PDF ได้อย่างมืออาชีพ: ด้วยคุณสมบัติขั้นสูงของ WPS Office ทำให้มีซอฟต์แวร์แก้ไข PDF ในตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลงไฟล์ PDF ใดๆ ให้เป็นรูปแบบที่แก้ไขได้ เช่น Word หรือ Excel และในทางกลับกัน
4. ปรับแต่งส่วนติดต่อผู้ใช้ได้ดั่งใจ: WPS Suit นำเสนอส่วนติดต่อผู้ใช้ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นธีม แบบอักษร แถบเครื่องมือ และอื่นๆ อีกมากมาย UI ที่ยืดหยุ่นนี้ทำให้การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและตรงตามความต้องการของผู้ใช้กลายเป็นเรื่องง่าย
โดยรวมแล้ว WPS Office นำเสนอคุณสมบัติที่คุ้มค่าและใช้งานง่ายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สร้าง แก้ไข และแชร์เอกสารได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อย
1. ฉันจะลบค่าวันและเวลาและแสดงผลลัพธ์ในหน่วยเวลาที่ต้องการได้อย่างไร?
สมมติว่าคุณต้องการลบค่าวันและเวลาใน Excel และแสดงผลลัพธ์ในหน่วยเวลาที่ต้องการ คุณเพียงแค่ลบเซลล์วันและเวลาทั้งสองโดยใช้ตัวดำเนินการลบและคูณผลลัพธ์ด้วยตัวแปลงที่เหมาะสม หากต้องการผลลัพธ์เป็นชั่วโมง ให้คูณด้วย 24 (เนื่องจาก 1 วัน = 24 ชั่วโมง) จัดรูปแบบเซลล์ที่มีสูตรตามต้องการ (เช่น เป็นรูปแบบตัวเลขหรือเวลา) และจะแสดงผลต่างของเวลาในหน่วยเวลาที่ต้องการ
2. ฉันสามารถลบค่าวันและเวลาและได้ผลลัพธ์เป็นรูปแบบทศนิยมได้หรือไม่?
ได้ คุณสามารถลบค่าวันและเวลาใน Excel และได้ผลลัพธ์เป็นทศนิยม เมื่อใดก็ตามที่คุณลบค่าวันและเวลาสองค่า Excel จะแสดงผลลัพธ์เป็นเลขทศนิยม โดยส่วนที่เป็นจำนวนเต็มจะแสดงจำนวนวัน และส่วนที่เป็นทศนิยมจะแสดงเศษส่วนของวัน (เวลา) รูปแบบนี้ช่วยให้คุณทำงานกับช่วงเวลาและระยะเวลาเป็นตัวเลขได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการคำนวณและการวิเคราะห์ต่างๆ
3. ฉันจะลบค่าวันและเวลาโดยไม่รวมองค์ประกอบเวลาได้อย่างไร?
ในการลบค่าวันและเวลาและไม่รวมองค์ประกอบเวลาใน Excel คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน DATE เพื่อดึงเฉพาะส่วนวันที่จากแต่ละค่าวันและเวลาก่อนที่จะทำการลบ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีวันและเวลาเริ่มต้นในเซลล์ A1 และวันและเวลาสิ้นสุดในเซลล์ B1 คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ในเซลล์แยกต่างหาก:
=DATE(YEAR(B1), MONTH(B1), DAY(B1)) - DATE(YEAR(A1), MONTH(A1), DAY(A1))
สูตรนี้จะให้ผลต่างของเวลาระหว่างค่าวันและเวลาทั้งสองเป็นวัน โดยไม่รวมองค์ประกอบเวลา ฟังก์ชัน DATE ช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่ค่าวันที่เท่านั้นและละเว้นส่วนของเวลา ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและแม่นยำสำหรับการคำนวณของคุณ
การลบวันและเวลาใน Excel - สรุป
โดยรวมแล้ว คู่มือนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถคำนวณผลต่างของเวลาใน Excel ได้ โดยใช้ประโยชน์จากความสามารถของวันที่และเวลาของ Excel ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือทางอาชีพก็ตาม ตอนนี้ผู้ใช้สามารถใช้ฟังก์ชันลบวันและเวลาของ Excel ได้โดยไม่ลังเลโดยทำตามบทช่วยสอนนี้
สุดท้ายนี้ WPS Office เป็นทางเลือกที่เชื่อถือได้และราคาไม่แพงแทน Microsoft Excel ที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและชุดฟังก์ชันที่ครอบคลุม ในฐานะที่เป็นเครื่องมืออันทรงพลัง WPS Office มีคุณสมบัติขั้นสูงสำหรับผู้ใช้ เช่น การจัดการข้อมูล การสร้างแผนภูมิ/กราฟ และการคำนวณที่ซับซ้อนในสเปรดชีต Excel คุณสามารถดาวน์โหลด WPS Office ได้ฟรีจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

